อย่ารอให้ทั้งเมืองพร้อม เริ่มจาก “พื้นที่ของคุณ” วันนี้ได้เลย ASAP (All Smart AI Platform) ออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับ อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่ แล้วเพิ่มสมอง AI เพื่อ วิเคราะห์ แจ้งเตือน สั่งงานอัตโนมัติ ในระบบเดียว ไม่ต้องรื้อโครงสร้างครั้งใหญ่และเริ่มเห็นผลได้ไวตั้งแต่เฟสแรก
ASAP คืออะไร และทำไมใช้เริ่มเป็น “Smart Zone” ได้ทันที
- เชื่อมหลายระบบในที่เดียว: ต่อ CCTV, PA System, Cloud, Bodycam, Drone และ IoT Devices เข้าด้วยกัน (Multi-Platform & IoT Integration) เพื่อภาพรวมเดียวของเหตุการณ์และการสั่งการ
- แจ้งเตือนถึงคนที่ต้องตัดสินใจจริง: ดูเหตุจากมือถือ/แท็บเล็ตได้ทุกที่ (On-the-Go Monitoring) และรองรับการสื่อสารหน้างาน เช่น วิทยุสื่อสาร, ไซเรน/สโตรบไลต์ เพื่อให้ลงมือได้ทันที
- Edge-first เร็ว–ปลอดภัย–คุ้มค่า: เพิ่ม Edge AI Processing ลดภาระ Cloud/แบนด์วิดท์ และยืนบนแนวคิด Unified Security (Cyber + Physical) เพื่อความปลอดภัยรอบด้าน
- สั่งงานอัตโนมัติได้จริง: ผูก SOP Automation และยกระดับเป็น ASAP+ เพื่อสั่ง โดรน/อุปกรณ์ภาคสนาม อัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด
เริ่มจากไหนก็ได้: ใช้ได้จริงกับ “หมู่บ้าน–โรงงาน–ชุมชน”
- หมู่บ้าน/คอนโด: เฝ้าระวังบุกรุก, ตรวจจับควัน/ไฟ, แจ้งเตือนผ่านแอป–วิทยุ–PA พร้อมกดปุ่มสั่งงานตาม SOP จากมือถือ (On-the-Go)
- โรงงาน/คลังสินค้า: ตรวจ PPE/พฤติกรรมเสี่ยง/การล้ม–อุบัติเหตุ/บุกรุก และสร้างรายงานคอมพลายอัตโนมัติ—เห็นไว ลงมือไว ลด Human Error
- เทศบาล/ชุมชนเมือง: ติด Water-Level และ PM2.5 หลายจุด ทำ Heatmap ความเสี่ยงพร้อมประกาศเตือน–ปรับเส้นทางได้ทันทีในแพลตฟอร์มเดียว
ทำไม “เริ่มเล็กแล้วค่อยขยาย” ถึงเวิร์กกว่า
- ใช้ของเดิมให้คุ้ม: ASAP เชื่อมกับอุปกรณ์เดิมข้ามแบรนด์ ผ่าน API/Universal Connector—เริ่มจากจุดเสี่ยงสูงก่อน ค่อยสเกลทีหลัง
- ลดงานคน–ลดค่าเน็ต/คลาวด์: ให้ Edge AI คัดกรองที่หน้างาน ส่งขึ้นคลาวด์เฉพาะสิ่งจำเป็น ประหยัดทันทีตั้งแต่เฟสแรก
- เหตุเกิด—ระบบลงมือเอง: ตั้ง SOP Automation เช่น เปิดไซเรน กั้นพื้นที่ โทรออก หรือส่งโดรนยืนยันเหตุ (ASAP+) เพื่อลด MTTR แบบวัดผลได้
- พร้อมยกระดับสู่ IOC เมื่อพร้อม: ขยายเป็น Smart Integrated Operation Center (IOC) เพื่อรวมศูนย์เฝ้าระวัง–สั่งการสำหรับเมือง/โครงสร้างพื้นฐานได้ในเฟสถัดไป
Roadmap เริ่มต้นแบบ “Smart Zone” (30–60–90 วัน)
- วัน 1–30: ระบุ Critical Events (บุกรุก/ควัน–ไฟ/PPE/PM2.5/น้ำ) → เชื่อมอุปกรณ์เดิมเข้า ASAP (CCTV/PA/วิทยุ/IoT)
- วัน 31–60: ตั้ง Rules + SOP Automation และเปิด On-the-Go Monitoring ให้ผู้เกี่ยวข้องรับแจ้งบนอุปกรณ์ที่ใช้งานจริง
- วัน 61–90: เปิด ASAP+ สำหรับเหตุสำคัญ (เช่น โดรนตรวจยืนยัน) และทดสอบแผน/ปรับเกณฑ์ ลด False Alarm พร้อมเตรียมขยายครอบคลุมโซนใกล้เคียง
วัดผลให้เห็นค่า (และคุ้มงบ)
- MTTD/MTTR ลดลงจากการเตือนพร้อม SOP ที่ทำให้ทีม ลงมือทันที
- ค่าแบนด์วิดธ์/คลาวด์ ลดลงด้วย Edge-first (คัดกรองก่อนส่งขึ้นคลาวด์)
- ประสิทธิภาพงานเฝ้าระวัง สูงขึ้น—จาก “พึ่งเจ้าหน้าที่อย่างเดียว” สู่ระบบอัจฉริยะที่ช่วยลด Human Error อย่างเห็นได้ชัด
เริ่มจากโซนเล็ก ๆ ให้ฉลาดขึ้นก่อน แล้วเมืองจะฉลาดตามมาเอง
ASAP Platform ให้คุณเริ่ม “Smart Zone” ได้ทันที เชื่อมอุปกรณ์เดิม, แจ้งเตือน On-the-Go, สั่งงานอัตโนมัติ และขยายสู่ IOC เมื่อพร้อม คุณไม่จำเป็นต้องรอแผน Smart City ทั้งเมืองถึงจะเริ่มได้อีกต่อไป
FAQ
เริ่มทำ Smart Zone ต้องซื้อของใหม่เยอะไหม?
ไม่จำเป็น ASAP รองรับการเชื่อมต่อข้ามแบรนด์ผ่าน API/Universal Connector และใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เดิมได้ทันที
ถ้าอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร ระบบยังทำงานได้หรือไม่?
ได้ เพราะออกแบบ Edge AI Processing ให้คัดกรอง/ตัดสินใจที่หน้างาน ลดการพึ่งพา Cloud และแบนด์วิดท์
แจ้งเตือนผ่านช่องทางใดบ้าง?
มือถือ/แท็บเล็ต (On-the-Go), วิทยุสื่อสาร, ไซเรน/สโตรบไลต์, PA และ API เพื่อเชื่อมระบบเดิมของพื้นที่คุณ
ถ้าต้องการยกระดับเป็นศูนย์สั่งการรวม (IOC) ภายหลังทำได้ไหม?
ทำได้ ASAP รองรับการขยายสู่ Smart Integrated Operation Center (IOC) เมื่อพื้นที่พร้อมด้านงบประมาณ/กระบวนการ