ประเทศไทยไม่ควรต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ร้าย ถึงจะลงมือป้องกันเทคโนโลยี ASAP จาก Canal One ออกแบบมาเพื่อ “ยับยั้ง” ไม่ใช่แค่ “รับมือ”asap-preventive-ai-thailand

ประเทศไทยไม่ควรต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ร้าย ถึงจะลงมือป้องกัน

ทุกวินาทีที่เรารอคอยให้ “สัญญาณจากส่วนกลาง” หรือ “เจ้าหน้าที่ว่างพอจะตรวจ” คือวินาทีที่ความเสียหายกำลังก่อตัว จากไฟไหม้เล็กๆ ที่ลุกลาม ไปจนถึงการขาด PPE ที่กลายเป็นอุบัติเหตุรุนแรง ASAP (All Smart AI Platform) ถูกออกแบบเพื่อย้าย AI ไปอยู่ “หน้างาน” ให้รู้ก่อน เตือนก่อน และ ลงมืออัตโนมัติ ได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นก่อน

จาก “รับมือเมื่อเกิดเหตุ” สู่ “ยับยั้งตั้งแต่ต้นทาง”

Preventive-by-design คือปรัชญาของ ASAP:

Sense → Understand → Decide → Act → Learn

  • Sense: รวมข้อมูลจาก CCTV, IoT, Bodycam, Drone, BMS/HVAC
  • Understand: วิเคราะห์เหตุ/พฤติกรรมเสี่ยงด้วย AI + Edge Processing
  • Decide: จัดลำดับความรุนแรง-ส่งต่อผู้รับผิดชอบแบบ On-the-Go
  • Act: ผูก SOP อัตโนมัติ (เปิดไซเรน/กั้นพื้นที่/ปรับระบบอาคาร/แจ้งชุมชน)
  • Learn: เก็บเหตุ–การตอบสนอง–ผลลัพธ์ เพื่อลด False Alarm และปรับโมเดล


ASAP Platform ทำอะไรให้ “ยับยั้งได้จริง”
1) ตรวจจับครอบคลุม—จากความปลอดภัยถึงสิ่งแวดล้อม
  • PPE/Behavior Risk: หมวก-แว่น-ถุงมือ, ง่วงในกะกลางคืน, เข้าโซนอันตราย
  • Smoke & Fire / Intrusion / Fall & Accident: เห็นไว ตัดสินใจไว
  • Environmental: Water-Level Monitoring, AI Air (PM2.5), อุณหภูมิ/ก๊าซ
2) แจ้งเตือนถึง “คนที่ต้องตัดสินใจจริง”

Real-time Notification สู่มือถือ, แอป, วิทยุสื่อสาร, PA, LINE OA, ป้ายดิจิทัล และ API เชื่อมระบบเดิม—ข้อมูลไปถึงภาคสนามทันที

3) จาก “เด้งเตือน” สู่ “สั่งงานอัตโนมัติ”

SOP Automation ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ (เปิดไซเรน/ล็อกโซน/ปรับ HVAC/ส่งข้อความเตือน) และ ASAP+ ยกระดับการตอบสนองด้วย Drone/Robot อัตโนมัติ

4) Unified Security System (Cyber + Physical)

รวมทุกสัญญาณไว้จอเดียว ลดไซโลข้ามทีม IT/OT/รปภ./สิ่งแวดล้อม ตัดสินใจร่วมกันได้เร็วขึ้น

5) Compliance Monitoring พร้อมออดิทได้

ตั้ง Rules ตามกรอบ ISO 27001, GDPR, OSHA, NIST, SOC 2, ISO 45001 ออก Incident/Compliance Report อัตโนมัติ ปิดช่องว่างเอกสารและการตรวจติดตาม

6) Edge-first & Green Tech

คิดที่หน้างานเพื่อลดดีเลย์/พึ่งพ์คลาวด์ และใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของระบบ

ยูสเคสที่ “ยับยั้งได้” (วันนี้)
  • โรงงาน/คลังสินค้า: ตรวจ PPE + Behavior ในจุดเสี่ยง, แจ้งเตือนหัวหน้างานผ่านวิทยุ/มือถือ, สั่งกั้นโซนอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข
  • เมืองอัจฉริยะ/เทศบาล: Water-Level + AI Air (PM2.5) ติดหลายจุด ทำ Heatmap เสี่ยง→ประกาศเตือนอัตโนมัติและปรับเส้นทางจราจร
  • อาคารสาธารณะ/โรงพยาบาล/ศูนย์การค้า: ผูก Smoke & Fire กับระบบอาคาร (BMS/HVAC/PA) เพื่อสั่งการฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ: รวมศูนย์ใน Smart Integrated Operation Center (IOC) ดูสถานการณ์ ณ จุดเดียวและสั่งการได้ทันที
สถาปัตยกรรมที่ “ต่อของเดิมได้ ขยายเป็นเฟส”
  • Smart Integration & Universal Connector: เชื่อมอุปกรณ์หลายยี่ห้อ/หลายโปรโตคอล ไม่ล็อกผู้ขาย
  • Edge + Cloud แบบไฮบริด: ให้ Edge คัดกรอง/ตัดสินใจหน้างาน ส่งเฉพาะสิ่งสำคัญขึ้น Cloud เพื่อเก็บยาวและทำอนาลิติกส์
  • ASAP+ Automation: เพิ่มโดรน/โรบ็อต/อุปกรณ์ภาคสนามตามความพร้อมขององค์กร


ผลลัพธ์ที่วัดได้ (ตัวชี้วัดแนะนำ)
  • Mean Time to Detect/Respond (MTTD/MTTR) ลดลงอย่างชัดเจน
  • จำนวนอุบัติการณ์รุนแรง ลดลง โดยเฉพาะเหตุจากพฤติกรรมซ้ำๆ
  • อัตราปิดงานออดิท/คอมพลายแอนซ์ ดีขึ้น (หลักฐานครบ-อัตโนมัติ)
  • ต้นทุนแบนด์วิดท์/คลาวด์ & พลังงาน ลดลงจาก Edge + Green Tech


Roadmap เริ่มต้น 30–60–90 วัน

30 วัน: สำรวจความเสี่ยง/จุดวิกฤติ → ตั้ง KPI, เลือกยูสเคสเร่งด่วน (PPE/ไฟ/น้ำ/PM2.5)

60 วัน: เชื่อมอุปกรณ์เดิมเข้า ASAP → ตั้ง Rules/SOP + ทดสอบแจ้งเตือน On-the-Go

90 วัน: เปิด Automation (ASAP) ในเหตุสำคัญ → สรุปผลลัพธ์/ปรับโมเดล/ขยายพื้นที่


FAQ

ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมดไหม?

ไม่จำเป็น ASAP รองรับ Multi-Brand/Multi-Protocol ต่อ CCTV/IoT/PA/วิทยุ/BMS/HVAC เดิมได้ และขยายเป็นเฟสตามงบประมาณ


ถ้าเน็ตล่ม ระบบยังทำงานหรือไม่?
ได้ สถาปัตยกรรม Edge-first ทำให้ประมวลผลและเตือนที่หน้างาน ต่อให้สัญญาณไม่เสถียรก็ยังสั่งอุปกรณ์ภาคสนามได้

กลัวเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล/กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
ASAP ยึด Privacy & Security by design รองรับกรอบ ISO 27001, GDPR และมี Audit Trail/Access Control ตรวจสอบได้

ป้องกัน False Alarm ยังไง?
ใช้ Sensor/Video Fusion, การยืนยันหลายชั้น (คน/ระบบ) และ Adaptive SOP ที่ปรับตามบริบทงานจริง พร้อมเรียนรู้จากเหตุย้อนหลัง

ป้องกันก่อนเกิด นี่คือเป้าหมายของความปลอดภัยยุคใหม่

ประเทศไทยไม่ควรต้องรอ “เหตุการณ์ร้าย” ถึงจะลงมือ ASAP Platform ทำให้ AI, คน, และอุปกรณ์ทำงานเป็นทีมเดียว เห็นก่อน เตือนก่อน ลงมือก่อน เพื่อ “ยับยั้ง” ความเสียหายตั้งแต่ต้นทาง และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่ยั่งยืนจริง

แชร์ข่าวสารนี้...

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยวันนี้

พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโซลูชันความปลอดภัย และความยั่งยืนสำหรับองค์กรของคุณ